วันนี้เอาครีมกันแดดที่มีคนพูดถึงมากที่สุด มีรีวิวมากที่สุดของ NIVEA ทั้ง 2 สูตร มาพิสูจน์คุณภาพกัน ว่าใช้แล้วได้ผลดีจริงไหม?
ตัวที่ 1 หลอดสีฟ้า NIVEA SUN PROTECT& WHITE OIL CONTROL SPF 50
คัวที่ 2 หลอดสีชมพู NIVEA SUN PROTECT& WHITE INSTANT AURA SERUM SPF 50+ PA+++
สำหรับในส่วนของราคาทั้ง 2 ตัว ราคา 149 บาทเท่ากัน แต่ปริมาณไม่เท่ากัน ทีนี้มาดูรายละเอียดแต่ละตัวกันเลยค่ะ
ตัวที่ 1 หลอดสีฟ้า NIVEA SUN PROTECT& WHITE OIL CONTROL SPF 50 PA+++
ตัวนี้เป็นเซรั่มป้องกันแดดสำหรับผิวหน้า ไม่ทำให้เครื่องสำอางไหลเยิ้ม เค้าเคลมว่ามีสารป้องกันรังสี UVA1/UV A2 /UVB ซึ่ง 3 ตัวนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำ บนใบหน้าของเรา
และที่น่าสนใจคือ ตัวนี้มีส่วนผสมของL’CARNITINE ซึ่งลดความมันในตัวขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวมากกว่า 86 % ตัวนี้เหมาะกับคนผิวมัน เพราะป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตัน ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ที่สำคัญคือช่วย lock Make Up ให้อยู่ได้นาน ถึง 8 ชม. เนื้อครีมของตัวนี้ พอเกลี่ยจะมีการแตกตัว
คัวที่ 2 หลอดสีชมพู NIVEA SUN PROTECT& WHITE INSTANT AURA SERUM SPF 50+ PA+++
ตัวนี้เหมะมากกับคนที่แต่งหน้าติดยาก ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำง่าย เป็น SERUM ป้องกันแดด แต่พอทาไปจะช่วยให้ผิวสวาสงมีออร่า และเหมือนกับตัวสีฟ้าคือ ช่วย lock Make Up ได้นานถึง 8 ชม.
ในส่วนของส่วนผสมมีความแตกต่างจากตัวหลอดสีฟ้าเล็กน้อย ตัวนี้ป้องกันรังสี UVA1/UV A2 /UVB เหมือนตัวที่ 1 แต่ในส่วนผสมถัดมามีAURA BOOSTER & VITAMIN E ซึ่ง AURA BOOSTER คือ ตัวที่ทาแล้วทำให้ผิวกระจ่างขึ้นมา ใสขึ้น สว่างขึ้น และวิตามิน อี ก็เหมาะกับคนผิวแห้งช่วยให้คงความชุ่มชื้นให้ผิว และตัวถัดมาก็คือ เป็นตัวPerfect Make-Up Preparation ซึ่งเป็นเสมือนการเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า ที่จะไปช่วย lock Mack –Up ของการแต่งหน้าให้อยู่ได้นานถึง 8 ชม. และส่วนผสมอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจคือLicorice Extract ซึ่งจะช่วยให้ผิวคล้ำหมอง ใสขึ้นมาได้
เนื้อครีมของทั้งสองสี ซึ่งก็เป็นเนื้อครีมที่ไม่หนัก ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหน้าเมื่อทา พอเกลี่ยแล้วซึมหายเร็ว ไม่ทิ้งความมัน ตัวนี้ทาแล้วผิวจะชุ่มชื้นขึ้น
ส่วนผลการทดสอบประสิทธิภาพของทั้งสองตัวปรากฏว่า ถ้าออกแดดแรงๆ ควรจะทากันแดดสองตัวนี้ซ้ำตอนไหน ซึ่งทุกคนต้องรู้ความจริงว่า ไม่ว่าครีมกันแดดตัวไหนยี่ห้อไหนอย่างไรก็ต้องมาซ้ำทุกตัว ไม่มีตัวไหนอยู่ได้ทั้งวัน
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในครั้งนี้ ใช้แถบ Smartsun UV Indicator Wristband ในการทดสอบ ซึ่งเป็นแถบสีเหลืองที่เคลือบสารที่ไวต่อรังสี UVA และ UVB ซึ่งจะทาครีมกันแดดลงบนแทบสี่เหลืองแล้วเอาไปตากแดดและเก็บผลทุกๆ 15 นาที เป็นเวลาต่อเนื่อง 1 ชม. ซึ่งทานำไปตากแดดแล้ว ถ้าแถบยังเป็นสีเหลืองอยู่แสดงว่ายังปกป้องอยู่ แต่ถ้ากลายเป็นสีไข่ คือเตือนให้ทากันแดดซ้ำ และถ้ากลายเป็นสีชมพูเข้มเลยคือเตือนให้หลบแดด
ซึ่งผลการทดสอบ ในประสิทธิภาพการกันแดดได้ผลดังนี้
สูตรลดความมัน หลอดสีฟ้า แถบทดสอบเริ่มเป็นสีไข่ในนาทีที่ 30 คือ ให้ทาครีมซ้ำในนาทีที่ 30 และในนาทีที่ 60 เตือนให้หลบแดด
ส่วนสูตรออร่า หลอดสีชมพู เริ่มเป็นสีไข่ในนาทีที่ 45 คือเตือนให้ทากันแดดซ้ำในนาทีที่ 45 และเตือนให้หลบแดดในนาทีที่ 60 เช่นเดียวกัน
เห็นประสิทธิภาพจากการทดลองแล้ว ถือว่าใช้ได้อย่างที่เขารีวิวกันมานะคะ ที่นี้ก็เลือกใช้ได้อย่างวางใจและรู้ว่าต้องทาซ้ำในตอนไหนแล้วล่ะค่ะ
#NIVEA #ครีมกันแดด #ยี่ห้อไหนใช้แล้วดี
