รีวิวน้ำหอมจาก Madam Fin แบบตรงไปตรงมาจากการทดลองใช้ ว่า “ฟินจริง” หรือแค่โฆษณา

รีวิวน้ำหอมจาก Madam Fin แบบตรงไปตรงมาจากการทดลองใช้ ว่า “ฟินจริง” หรือแค่โฆษณา

ด้วยความเป็นน้ำหอมที่เกิดขึ้นในกระแสเยอะมากในช่วงปีสองปี เพราะได้รับการโฆษณาจากกลุ่ม ดารา ค่อนข้างเยอะ จนเกิดคำถามว่า มันหอมและสร้างความฟินได้จริงอย่างที่โฆษณาจริงหรือ วันนี้จึงไดมีการทดลองใช้ และนำผลการทดลองใช้มารีวิวอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีเจตนาจะโจมตีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์แต่อย่างไร มาดูรีวิว ของความหอมและ ความฟินของทั้ง 3 สีไปพร้อมๆกันเลย

1.Fin in love ขวดสีแดง ขนาดของปริมาณน้ำหอมคือ 30 ml ผลิตที่นครปฐม มีสติกเกอร์ติดการันตีว่าเป็นของแท้ ขวดนี้เมื่อฉีดครั้งแรก ได้กลิ่นกอมดอกไม้ค่อนข้างชัด มีความหวานปนอยู่นิดๆ

2.More Finn สีเขียว ขวดนี้เป็นกลิ่นธรรมชาติที่ไม่ค่อยธรรมชาติ คือเป็นกลิ่นธรรมชาติสังเคราะห์ ยังไม่รู้สึกว่าfin

3.Fin in Black สีดำ ฉีดแล้วมีความรู้สึกถึงกลิ่นเครื่องเทศ ให้ความรู้สึกที่เซ็กซี่เหมือนกัน

การทดลองนี้ เป็นความรู้สึกในการทดลองฉีดครั้งแรก อย่างไรหากได้ลองใช้ไปสักอาทิตย์ สองอาทิตย์ค่อยมาดูผลรีวิวจากการใช้อีกครั้งหนึ่งว่า น้ำหอมมาดามฟิน จะให้ความรู้สึกถึงความฟินอย่างที่โฆษณาหรือไม่

มาดูผลหลังจากการทดลองใช้น้ำหอมมาดามฟิน ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์กันซึ่งเราจะมาสรุปกันที่ 3 ประเด็นคือ 1.กลิ่นไหนที่ดีที่สุด 2.กลิ่นไหนติดทนที่สุด และ 3. สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ที่สุดคือ น้ำหอมมาดามฟิน มันฟินอย่างที่โฆษณาหรือเปล่า มาดูผลจากการทนลองใช้กันเลยค่ะ

มาที่เรื่องกลิ่นก่อนก่อนอันดับแรก

จากการทดลองใช้ กลิ่นที่หอมและดีที่สุดคือ สีแดง  Fin in love กลิ่นนี้ให้ความเป็นผู้หญิง ที่เป็นสาวหวานมากๆ อารมณ์ผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีชมพู

กลิ่นที่หอมลองลงมา

ตัวสีดำ Fin in love ซึ่งความรู้สึกที่ได้ลองครั้งแรกคือ เมื่อฉีดกลิ่นค่อนข้างฉุน และมีความเป็น spicy แต่พอใช้ไปเรื่อยๆก็ค่อนข่างคุ้นเคยและโอเคมากขึ้น เข้าใจว่าโดยทางแบรนด์ ตั้งใจจะทำให้กลิ่นนี้ออกมา sexy แบบสำหรับผู้หญิงที่ทำให้สามีรัก สามีหลง ดูเผ็ดร้อน

กลิ่นที่หอมน้อยที่สุดคือ สีเขียว

ตัวนี้บอกตรงๆแลยว่าดมแล้วรู้เลยว่าไม่ใช่น้ำหอมราคาแพง กลิ่นมีความเป้นกลิ่นสังเคราะห์ เหมือนน้ำยาทำความสะอาดประมาณนั้น

เรื่องของความติดทนของกลิ่น

โดยรวมกลิ่นจะติดนาน 6-7 ชั่วโมง เหมือนจะติดทนนะ เพราะตอนที่ฉีดกลิ่นฟุ้งกระจายมาก แต่อายุความหอมไม่เกิน 6-7 ชั่วโมง และ Fin in Black สีดำ เป็นกลิ่นที่ติดทนที่สุด ส่วนกลิ่นที่ติดทนรองลงมาคือ Fin in love ขวดสีแดง และติดทนที่น้อยที่สุดคือ More Finn สีเขียว ซึ่งเริ่มฉีดกลิ่นก็ไม่ค่อยกระจายติดตัวตั้งแต่แรกแล้ว

ส่วนคำถามสุดท้ายที่ทุกคนอยากรู้ที่ดาราเค้าโฆษณากันมาตลอด ที่ว่า ฉีดแล้ว สามีรัก สามีหลง คิดถึงตลอด ถามว่าฟินขนาดนั้นจริงไหม ขอตอบเลยว่า มันยังไม่ฟินขนาดนั้น

อย่างตัวสีแดง ถ้าให้คะแนนในความเป็นน้ำหอมก็ได้ที่ 7 เต็ม 10 คะแนน ก็น่าสนใจมากกว่าตัวสีอื่นๆทั้งหมด แต่ก็ไม่ฟินมากถึงขนาดว่าสามีรักสามีหลง

ส่วนสีเขียวและสีดำ ยังไม่ประทับใจให้ความรู้สึกเฉยๆอยู่ โดยเฉพาะสีเขียวที่ต้องตกรอบไปเลยอย่างชัดเจน ส่วนตัวสีดำคะแนน 5 เต็ม 10

#MadamFin #รีวิวน้ำหอม #ยี่ห้อไหนใช้แล้วดี 

Our Partner